มีผู้กล่าวว่าสมองของมนุษย์ใช้ความสามารถเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แล้วอีก 90 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือล่ะ หากเราสามารถกระตุ้นให้สมองทำงานได้มากขึ้นจะทำให้เราฉลาดขึ้น? ตัดสินใจได้ดีขึ้น? เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น?
นักวิทยาศาสตร์ใช้เวลาหลายทศวรรษเพื่อตอบข้อสงสัยเหล่านี้ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างเต็มปากนัก มีเพียงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าสมองแต่ละส่วนมีบทบาทและทำหน้าที่เฉพาะแตกต่างกันไป และมนุษย์ก็ใช้สมองหลากหลายส่วนพร้อมกันเพื่อการดำรงชีวิตในแต่ละวัน
สมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการรวมถึงการตัดสินใจนั้นได้แก่สมองส่วนหน้า (frontal lobe หรือ neocortex) ที่ได้ชื่อว่า neocortex ก็เพราะสมองส่วนนี้จะค่อยๆ พัฒนาจนทำงานได้เต็มที่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ตอนต้น นั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเด็กน้อยจึงยังไม่สามารถฟอร์มความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลในเชิงตรรกะได้มากนัก
สมองส่วนที่ควบคุมเรื่องอารมณ์ทำงานเป็นเครือข่ายเรียกว่าระบบลิมบิก (limbic system) โดยมีกองบัญชาการหลักคือ อะมิกดาลา (Amygdala) ชื่อเดียวกับเจ้าหญิงอะมิกดาล่าในหนังเรื่องสตาร์วอร์ และ ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ซึ่งกองบัญชาการทั้งสองนี้ตั้งอยู่ติดกันบนตำแหน่งใกล้แนวกึ่งกลางสมอง ทุกครั้งที่เราเผชิญกับข้อมูลที่ต้องตัดสินใจหรือปัญหาที่ต้องแก้ไข สมองทั้งส่วนความคิดและอารมณ์จะถูกกระตุ้นอย่างหนักและทำงานเชื่อมโยงกันเสมอ
ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันจากการถ่ายภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ของคนที่กำลังใช้ความคิดเพื่อตัดสินใจ จะเห็นว่าบริเวณสมองส่วนหน้าบริเวณ frontopolar cortex (หรือที่รู้จักกันดีในนามของ executive area ในสมอง) และตำแหน่งบริเวณกลางสมองที่ควบคุมด้านอารมณ์จะมีการใช้พลังงานมากกว่าสมองส่วนอื่นๆ (ภาพประกอบจากวารสารวิชาการ ‘Nature’)
อารมณ์เป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจ
สมองด้านอารมณ์ทำงานโต้ตอบกับสิ่งเร้าได้รวดเร็วกว่าสมองด้านความคิด เพราะมันทำงานโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความคิดไตร่ตรอง และนี่คือเหตุผลว่าทำไมบางครั้งถึงไม่ค่อยเท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของเราแต่กลับมานึกได้ทีหลังว่ารู้สึกโกรธ คุณเคยมีประสบการณ์ที่ชอบหรือไม่ชอบหน้าใครบางคนตั้งแต่แรกเห็นโดยที่ยังไม่ทันรู้จักบ้างมั้ย นั่นหล่ะคือ “สมองเจ้าอารมณ์” ของคุณทำงานไปเรียบร้อยแล้ว บางคนจะเรียกความรู้สึกอย่างนี้ว่า “ญาณหยั่งรู้ส่วนตัว หรือ ลางสังหรณ์ส่วนตัว” หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า “gut feeling”
สมองเจ้าอารมณ์ของพวกเราจะทำงานรวดเร็วกว่าสมองเจ้าความคิดประมาณเสี้ยววินาที การฝึกทำความเข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นให้ได้ในช่วงเศษเสี้ยววินาทีนั้นเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยปรับปรุงความสามารถในการตัดสินใจของพวกเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว เราอาจเรียกความสามารถนี้ว่า “ความสามารถในการครองสติและรู้เท่าทันสติ” เพราะอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้ตัดสินใจไปแล้วล้วนส่งผลต่ออนาคตของเราทั้งสิ้น
อารมณ์หรือความรู้สึกที่หลากหลายเป็นตัวจุดประกายเริ่มแรกสำหรับทุกการตัดสินใจเสมอ เหมือนกับเป็นทางลัดของจิตที่เร่งให้เราตัดสินใจเร็วขึ้น อารมณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลจำนวนมาก มันจะช่วยให้เราเลือกการตัดสินใจที่คิดว่ามีความเป็นไปได้ดีที่สุดที่เหมาะกับตัวเรา ทำให้เราข้ามขั้นตอนความคิดไปได้อย่างรวดเร็ว สมองเหนื่อยน้อยลง ..ถามว่าดีมั้ย ? งั้นเราลองมาแตกประเด็นรายละเอียดเรื่องนี้กัน …
สมองของเราสามารถคิดเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างน้อย 4 ถึง 7 เรื่องพร้อมกัน สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบความคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุมีผล แต่อะไรจะเกิดขึ้นหากสมองของเราคิดตัวเลือกไว้มากเกินไปจนยากที่จะจดจำหรือเปรียบเทียบ สิ่งที่จะรี่เข้ามาช่วยเลือกคำตอบให้คือสมองด้านอารมณ์ซึ่งปกติก็ทำงานได้รวดเร็วกว่าสมองด้านความคิดอยู่แล้ว
บ่อยครั้งที่เราได้รับข้อเท็จจริงมากมายท่วมท้น ข้อมูลมหาศาลเหล่านี้จะถูกอัดแน่นเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของญาณหยั่งรู้ หรือ gut feeling สิ่งนี้เกิดขึ้นทุกวันเช่นเวลาที่คุณต้องเลือกเมนูมื้อกลางวัน เลือกเพื่อนร่วมชีวิต หรือการตัดสินใจเรื่องสำคัญในที่ทำงาน อารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ หรือ ความรู้สึกล่วงหน้า (hunch) ถือว่าเป็นผู้นำสารที่สำคัญมาให้คุณ ดังนั้นการตรวจสอบว่าลางสังหรณ์ของคุณถูกต้องแม่นยำเพียงใดก็เป็นความคิดที่เข้าท่าเหมือนกัน
เราลองมาคิดเรื่องนี้ดูว่าเป็นอย่างไร?
ความเชื่อ: “ถ้าต้องตัดสินใจเรื่องง่ายๆ ทั่วไป ก็ไม่ค่อยมีผลกับอารมณ์ของฉันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญคอขาดบาดตายฉันก็จะไม่ปล่อยให้อารมณ์เข้ามามีผลต่อการตัดสินใจ ดังนั้นหากฉันสามารถเรียนรู้วิธีสกัดกั้นอารมณ์ของฉันได้ ฉันก็สามารถตัดสินใจได้อย่างยอดเยี่ยม”
ความจริง: ความเชื่อดังกล่าวไม่มีทางเป็นไปได้ ซ้ำร้ายเราไม่สามารถจะตัดสินใจอะไรได้เลยถ้าไม่มีสมองด้านอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าสมองส่วนนี้ถูกทำลายหรือบาดเจ็บ การตัดสินใจแม้กระทั่งเรื่องง่ายๆ ก็จะยากขึ้นทันที เช่นจะใช้ปากกาหมึกดำหรือหมึกน้ำเงิน และเมื่อเราตัดสินใจเลือกได้แล้ว เราก็จะไม่มั่นใจในสิ่งที่เลือก วนเวียนเป็นวัฏจักรแห่งความลังเลเรื่อยไป
แล้วเราจะควบคุมอารมณ์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเราได้อย่างไร?
1. ทำความเข้าใจว่าปฏิกิริยาตอบโต้ทางอารมณ์ทุกครั้งขึ้นอยู่กับความฉลาดทางอารมณ์ (emotional intelligence) ของแต่ละคน เมื่อเกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่รุนแรง ตัวเราจะรู้สึกร้อน กว่าปกติ หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกที่ฝ่ามือ ปฏิกิริยาเคมีเหล่านี้ส่งผลชัดเจนต่อการตัดสินใจของเรา
2. กลุ่มอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยให้เราระแวดระวังเรื่องการสูญเสีย และช่วยให้เรารู้สึกเหมือนมีพลังฮึกเหิม เช่นถ้าคุณขับรถแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝัน คุณจะใช้เวลาเพียงเศษเสี้ยววินาทีในการตัดสินใจที่จะไม่ทำให้ตัวเองเกิดอุบัติเหตุ หรือสามารถควบคุมรถไม่ให้พุ่งไปชนคันอื่น สำหรับการตัดสินใจบางเรื่องที่ไม่ฉุกเฉิน กลุ่มอารมณ์ประเภทนี้ก็เกิดขึ้นเช่นกัน แต่คุณมีเวลาในการตัดสินใจนานกว่า
3. เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินใจที่สำคัญ ลองใช้ลางสังหรณ์ของคุณ ลองถามตัวเองว่าเราพยายามจะหลีกเลี่ยงอะไรหรือเราได้ประโยชน์อะไร เรามักใช้ 2 คำถามนี้ถามตัวเองอยู่เสมอในทุกๆการตัดสินใจ และจงซื่อสัตย์กับตนเอง รวมถึงหมั่นตรวจสอบผลกระทบของอารมณ์ความรู้สึกนี้ในการตัดสินใจของคุณ
4. ท้ายสุด ลองถามตัวเองว่าการตัดสินใจของคุณจะแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่หากคุณตัดเรื่องอารมณ์ออกไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
1. Tremaine Du Preez. Book: Think Smart, Work Smarter: A Practical Guide to Solving Problems Faster (Success Skills Series) – July 15, 2011
2. John Pearson, Michael L Platt. Dynamic decision making in the brain. Nature Neuroscience 2012:15; 341-2.
3. NIMH – Perception decision making hub pinpointed in human brain.(Accessed on April 30th, 2015)
4. www.brainsurgeryinc.com/emotion-reason-decision (Accessed on May 1st, 2015)
The first thing you need
It’s advisable if you’re able to write these papers as though it were your affordable-papers.net own and be very particular about what you would like to communicate with your audience.
to know when composing custom research papers is that it is necessary that you have a specific purpose for doing so.
Sorry. No data so far.